บทรำพึงถึงพระเยซูเจ้าผ่านทางแม่พระ ภาคปิติยินดี (ประจำวันจันทร์และวันเสาร์)

Audio Streaming

บทรำพึงถึงพระเยซูเจ้าผ่านทางแม่พระ ภาคปิติยินดี
ประจำวันจันทร์และวันเสาร์

บทข้าพเจ้าเชื่อ (สัญลักษณ์ของอัครสาวก) (Credo)

ข้าพเจ้าเชื่อในพระเจ้า พระบิดาผู้ทรงสรรพานุภาพ ทรงเนรมิตฟ้าดิน

ข้าพเจ้าเชื่อในพระเยซูคริสตเจ้า พระบุตรหนึ่งเดียวของพระเจ้า องค์พระผู้เป็นเจ้าของข้าพเจ้าทั้งหลาย ทรงปฏิสนธิเดชะพระจิตเจ้า ทรงบังเกิดจากพระนางมารีย์พรหมจารี ทรงรับทรมานสมัยปอนทิอัส ปิลาต ทรงถูกตรึงกางเขน สิ้นพระชนม์ และทรงถูกฝังไว้ เสด็จสู่แดนมรณะ วันที่สามทรงกลับคืนพระชนมชีพจากบรรดาผู้ตาย เสด็จสู่สวรรค์ ประทับเบื้องขวาพระเจ้า พระบิดาผู้ทรงสรรพานุภาพ แล้วจะเสด็จมาพิพากษาผู้เป็นและผู้ตาย

ข้าพเจ้าเชื่อในพระจิตเจ้า พระศาสนจักรศักดิ์สิทธิ์สากล ความสัมพันธ์เป็นหนึ่งเดียวของผู้ศักดิ์สิทธิ์ การอภัยบาป การกลับคืนชีพของร่างกาย และชีวิตนิรันดร อาแมน

บทข้าแต่พระบิดา (มธ 6:9-13) (Pater Noster)

ข้าแต่พระบิดาของข้าพเจ้าทั้งหลาย พระองค์สถิตในสวรรค์ พระนามพระองค์จงเป็นที่สักการะ พระอาณาจักรจงมาถึง พระประสงค์จงสำเร็จในแผ่นดินเหมือนในสวรรค์ โปรดประทานอาหารประจำวัน แก่ข้าพเจ้าทั้งหลายในวันนี้ โปรดประทานอภัยแก่ข้าพเจ้า เหมือนข้าพเจ้าให้อภัยแก่ผู้อื่น โปรดช่วยข้าพเจ้าไม่ให้แพ้การผจญ แต่โปรดช่วยให้พ้นจากความชั่วร้ายเทอญ อาแมน

บทวันทามารีย์ (Ave Maria)

วันทามารีย์ เปี่ยมด้วยพระหรรษทาน พระเจ้าสถิตกับท่าน ผู้ได้รับพระพรกว่าสตรีใดๆ และพระเยซูโอรสของท่าน ทรงได้รับพระพรยิ่งนัก สันตะมารีย์ พระมารดาพระเจ้า โปรดภาวนาเพื่อลูกทั้งหลายผู้เป็นคนบาป บัดนี้และเมื่อจะตาย อาแมน

บทพระสิริรุ่งโรจน์ (Gloria Patri)

พระสิริรุ่งโรจน์แด่พระบิดา และพระบุตร และพระจิต เหมือนในปฐมกาล บัดนี้และทุกเมื่อตลอดนิรันดร อาแมน

(วันจันทร์และวันเสาร์) พระธรรมล้ำลึกน่ายินดี

ข้อรำพึงเกี่ยวกับการบังเกิดของพระเยซูเจ้า

ข้อรำพึงที่ 1 ทูตสวรรค์แจ้งข่าวแก่พระนางมารีย์

“พระเจ้าทรงส่งทูตสวรรค์กาเบรียลมายังเมืองหนึ่งในแคว้นกาลิลี ชื่อเมืองนาซาเร็ธ มาพบหญิงพรหมจารีคนหนึ่งซึ่งหมั้นอยู่กับชายชื่อโยเซฟ ในราชวงศ์ของกษัตริย์ดาวิด หญิงพรหมจารีผู้นั้นชื่อมารีย์” (ลก 1:26-27) “การที่ทูตสวรรค์แจ้งข่าวแก่พระนางมารีย์ เป็นการเริ่ม “เวลาที่กำหนดไว้” (กท 4:4) เป็นการกระทำให้พระสัญญาของพระเจ้า และการเตรียมกิจการต่างๆ ให้สำเร็จไป” (คำสอนพระศาสนจักรคาทอลิก ข้อ 484)

ข้อรำพึงที่ 2 พระนางมารีย์เสด็จเยี่ยมนางเอลีซาเบธ

“หลังจากนั้นไม่นาน พระนางมารีย์ทรงรีบออกเดินทางไปยังเมืองหนึ่งในแถบภูเขาแคว้นยูเดีย พระนางเสด็จเข้าไปในบ้านของเศคาริยาห์และทรงทักทายนางเอลีซาเบธ เมื่อนางเอลีซาเบธได้ยินคำทักทายของพระนางมารีย์ บุตรในครรภ์ก็ดิ้น นางเอลีซาเบธได้รับพระจิตเจ้าเต็มเปี่ยม ร้องเสียงดังว่า “เธอได้รับพระพรยิ่งกว่าหญิงใด ๆ และลูกของเธอก็ได้รับพระพรด้วย (ลก 1: 39-42 ) “พระนางมารีย์เสด็จเยี่ยมนางเอลีซาเบธ ได้กลายเป็นการเสด็จเยี่ยมของพระเจ้าแก่ประชากรของพระองค์” (คำสอนพระศาสนจักรคาทอลิก ข้อ 717)

ข้อรำพึงที่ 3 พระเยซูเจ้าประสูติ ณ เมืองเบธเลเฮม

“ครั้งนั้น พระจักรพรรดิออกัสตัส ทรงออกพระราชกฤษฎีกาให้มีการสำรวจสำมะโนประชากรทั่วจักรวรรดิโรมัน การสำรวจสำมะโนประชากรครั้งแรกนี้ มีขึ้นเมื่อคีรินีอัสเป็นผู้ว่าราชการแคว้นซีเรีย ทุกคนต่างไปลงทะเบียนในเมืองของตน โยเซฟออกเดินทางจากเมืองนาซาเร็ธในแคว้นกาลิลีไปยังเมืองของกษัตริย์ดาวิดชื่อเบธเลเฮมในแคว้นยูเดีย เพราะโยเซฟสืบเชื้อสายมาจากราชวงศ์กษัตริย์ดาวิด ท่านไปลงทะเบียนพร้อมกับพระนางมารีย์ ซึ่งกำลังทรงพระครรภ์ ขณะที่อยู่ที่นั่น ก็ถึงกำหนดเวลาที่พระนางมารีย์จะมีพระประสูติกาล พระนางประสูติพระโอรสองค์แรก ทรงใช้ผ้าพันพระวรกายพระกุมารนั้น แล้วทรงวางไว้ในรางหญ้า เนื่องจากไม่มีที่ในห้องพักแรมเลย (ลก 2:1-7) “พระเยซูเจ้าทรงบังเกิดในถ้ำเลี้ยงสัตว์ต่ำต้อย ในครอบครัวที่ยากจน คนเลี้ยงแกะธรรมดาๆ คือประจักษ์พยานกลุ่มแรกของเหตุการณ์ครั้งนั้น ในความยากจนนั้นเองซึ่งสิริโรจนาแห่งสวรรค์ได้ปรากฏให้เห็น” (คำสอนพระศาสนจักรคาทอลิก ข้อ 525)

ข้อรำพึงที่ 4 พระนางมารีย์ถวายพระกุมารในพระวิหาร

“เมื่อครบกำหนดแปดวัน ถึงเวลาที่พระกุมารจะต้องทรงเข้าสุหนัต เขาถวายพระนามพระองค์ว่าเยซู เป็นพระนามที่ทูตสวรรค์ให้ไว้ก่อนที่พระองค์จะทรงปฏิสนธิ์ในพระครรภ์ของพระมารดา เมื่อครบกำหนดเวลาที่มารดาและบุตรจะต้องทำพิธีชำระมลทิน ตามธรรมบัญญัติของโมเสส โยเซฟพร้อมกับพระนางมารีย์นำพระกุมารไปที่กรุงเยรูซาเล็มเพื่อถวายแด่พระเจ้า มีเขียนไว้ในธรรมบัญญัติของพระเจ้าว่า จะต้องถวายบุตรชายคนแรกแด่พระเจ้า และถวายเครื่องบูชาคือนกเขาหนึ่งคู่หรือนกพิราบสองตัวตามที่มีกำหนดไว้ในธรรมบัญญัติของพระเจ้า (ลก 2:21-24) “พระเยซูเจ้าทรงรับพิธีเข้าสุหนัต ในวันที่แปดหลังการบังเกิดของพระองค์ เป็นเครื่องหมายของการรวมเข้าในตำแหน่งผู้สืบเชื้อสายของอับราฮัม ในประชากรแห่งพันธสัญญา เครื่องหมายของการยอมอยู่ใต้ธรรมบัญญัติ” (คำสอนพระศาสนจักรคาทอลิก ข้อ 527)

ข้อรำพึงที่ 5 พระนางมารีย์พบพระเยซูเจ้าในพระวิหาร

โยเซฟพร้อมกับพระมารดาของพระเยซูเจ้าเคยขึ้นไปยังกรุงเยรูซาเล็มในเทศกาลปัสกาทุกปี เมื่อพระองค์มีพระชนมายุสิบสองพรรษา โยเซฟพร้อมกับพระมารดาก็ขึ้นไปกรุงเยรูซาเล็มตามธรรมเนียมของเทศกาลนั้น เมื่อวันฉลองสิ้นสุดลง ทุกคนก็เดินทางกลับ แต่พระเยซูเจ้ายังประทับอยู่ที่กรุงเยรูซาเล็มโดยที่บิดามารดาไม่รู้ เพราะคิดว่า พระองค์ทรงอยู่ในหมู่ผู้ร่วมเดินทาง เมื่อเดินทางไปได้หนึ่งวันแล้ว โยเซฟพร้อมกับพระนางมารีย์ตามหาพระองค์ในหมู่ญาติและคนรู้จัก เมื่อไม่พบจึงกลับไปกรุงเยรูซาเล็ม เพื่อตามหาพระองค์ที่นั่น ในวันที่สาม โยเซฟพร้อมกับพระนางมารีย์พบพระองค์ในพระวิหารประทับนั่งอยู่ในหมู่อาจารย์ ทรงฟังและทรงไต่ถามพวกเขา ทุกคนที่ได้ฟังพระองค์ต่างประหลาดใจในพระปรีชาที่ทรงแสดงในการตอบคำถาม (ลก 2:41-47) “การได้พบพระเยซูในพระวิหาร เป็นเหตุการณ์อันเดียว ซึ่งเข้ามาทำลายความเงียบของพระวรสารเกี่ยวกับปีที่เร้นอยู่เหล่านั้นของพระเยซูเจ้า ในเหตุการณ์นี้พระเยซูเจ้าทรงปล่อยให้เราพอมองเห็นธรรมล้ำลึกแห่งการถวายองค์โดยสิ้นเชิงให้แก่พันธกิจอันเนื่องมาจากการเป็นบุตรพระเจ้า” พ่อแม่ไม่รู้หรือว่า ลูกต้องอยู่ในบ้านของพระบิดาของลูก (คำสอนพระศาสนจักรคาทอลิก ข้อ 534)